ตัวเราก็จะเปลี่ยนได้ “ภาระ” อันยิ่งใหญ่ ที่เราเกิดมาเป็นคนในชาตินี้ “จบ” แล้ว
ที่เราเกิดมาเป็นคน ทุกภพ ทุกชาตินั้น
เราตั้งใจที่จะมา *นิพพาน หรือ *หนีทุกข์ไปหาสุขถาวร
และไปนิพพานนี้ พระพุทธเจ้าก็ได้บอกทางเดินไว้ให้แล้ว
คือ การปฏิบัติเพียงแต่ ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ ให้จำขึ้นใจ
ใช้ความเพียรพยายามเท่านั้น ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเงินทอง ไม่เสียเวลา
ชีวิตก็ท่องไม่เที่ยงเกิดดับได้ตลอดเวลา...
ชีวิตเราก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยที่ถูกต้อง ที่เป็นสุข....
แล้วจะมีทุกข์ได้อย่างไร?
เพราะนี่เป็น *ความตั้งใจ *ความเต็มใจของทุกคน.... ที่เกิดมาเป็นมนุษย์
ว่าฉันจะมาหนีทุกข์ไปหาสุขให้ได้
แต่ที่อ้อยอิ่ง เยิ่นเย้อ อยู่ ....เพราะความพอใจ ไม่พอใจ หรือบาป อกุศล
มันดึงดันไม่ให้เราไป ...ภาษาคนคือ "มาร" ขัดขวางไม่ให้เราไปทางนั้น
เมื่อเราเอาไม่เที่ยงเกิดดับใส่ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจแล้ว
ความจริงไม่เที่ยงเกิดดับ คำสอนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ก็จะไปไล่ "มาร" ออกมาจากตัวเรา....
เมื่อไม่มีมาร มาขัดขวาง ตัวเราจะเดินไปที่ไหน ๆ ก็คล่องแคล้ว
เดินไปหาคน ก็ไม่ติดเชื้อ โลภะ โทสะ โมหะ กับใครมา....
ไปหาสิ่งของ ก็จะเห็น “ใหม่ เก่า แตกสลาย”
จะเห็นความจริงอย่างนั้น เห็นคนก็ “หนุ่ม แก่ ตาย”
เห็นเกินเลยกว่าคนธรรมดาเห็น เห็นเกินคนปกติ ที่จะเห็นได้
*เห็นด้วยตาใน คือตาปัญญา
แต่ทุกวันนี้ คนเราไม่รู้ว่า โลภะ โทสะ โมหะ หรือความพอใจ ไม่พอใจ มันเป็นเชื้อโรคร้าย
มันเป็นต้นตอของ มะเร็ง ที่ฆ่าชาวโลก
ความพอใจ ไม่พอใจ ทำให้เกิดความเครียด
เมื่อเราเครียด ระบบการทำงานของร่างกาย ก็ไม่ปกติ
การต่อต้านของระบบในชีวิตก็ไม่มี....
จึงเปิดโอกาสให้มะเร็ง เข้ามาฆ่าคนได้ทุกวัน
คนที่เป็นมะเร็ง ต้นตอมาจากความเครียดทั้งนั้น.....